12 September 2006

ตูละเบี่ย ... case study I

ณ. รพ. กระผมเอง (ไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ทำงานอยู่) เวลาบ่าย ๆ น่านอนชะมัด คุณลุง อายุ 70 ปี เดินเข้ามาในห้อง

ผม - "ลุง....เป็นอะไรมา" ผมทัก พร้อมกับก้มหน้าอ่าน OPD card
ลุง - "ไอเป็นเลือด..หมอ"
ผม - "อืม......" ว่าแล้วก็หยิบสเต๊ด(หูฟังของหมออะ)ขึ้นมา

ฟืด ๆ ๆ ๆ...... เสียงหายใจคุณลุงวิ่งผ่านสายหูฟังเข้ามา.... ก็ดูปกติดีนี่นา ไม่เห็นมีอะไรเลย ผมคิดในใจ

ผม - "เอ้า! ลุง.. เดี๋ยวไปเอกซเรย์ปอดดูหน่อย"
ลุง - "ไม่เอาอะหมอ ไม่เอกซเรย์"
ผม - "ไม่เอกซเรย์แล้วจะรู้ได้งัย ว่าลุงเป็นอะไร ไปเอกซเรย์ก่อน"
ลุง - "หมอ ๆ ...จัดยาให้ผมมาเลยเถอะ ไม่ต้องเอกซเรย์หรอก" ลุงเริ่มงอแงทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจ ทั้ง ๆ ที่ อายุอานามก็ใกล้ฝั่งไปทุกที
ผม - "ไม่ได้..ลุง!! ต้องเอกซเรย์ก่อน ผมถึงจะวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคอะไร แล้วค่อยจัดยาให้" ผมเริ่มหงุดหงิดความเอาแต่ใจของลุง
ลุง - "ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา....ไม่เอกซเรย์ เอายามาให้ผมเลย" นี่ถ้าลุงลงไปนอนดิ้นพราด ๆ กับพื้นแบบเด็กๆได้ ลุงคงทำไปแล้ว
ผม - ภาวนาในใจตั้งสติ ๆ ๆ ๆ ๆ

พุทโธ
......
ธรรมโม
......
สังโฆ
......
ใจเย็นไว้
......
......
......
แล้วก็ถามกลับไปอย่างใจเย็นว่า

ผม - "แล้วทำไมลุงถึงไม่อยากเอกซเรย์ล่ะ"
ลุง - "ผมกลัวเป็นมะเร็ง" อ้าว.......ซ้างั้น....ลุงนี่น้า...
ผม - "อ้าว...แล้วถ้าลุงกลัว ลุงมาตรวจทำไม"

และแล้วบุคคลที่สามก็โผล่มา (ความจริงโผล่มาตั้งนานแล้ว แต่นั่งนิ่งเงียบอยู่ข้าง ๆลุง)

ลูกสาวลุง - "เอ่อ..คือพอดีว่า....." ยังไม่ทันได้สิ้นเสียงลูกสาวที ผมก็บังอ้อทันที...ที่แท้ลูกสาวพามานั่นเอง แต่ยังไม่ทันที่ลูกสาวจะพูดจบ ลุงก็แทรกขึ้นมาอีก....
ลุง - "ไม่เอา ๆ ผมไม่ตรวจแล้ว เอายามาเลย ผมกลัว" ความเอาแต่ใจตัวเองยังกะเด็กของลุงยังไม่จบไม่สิ้น ... เฮ้อ ! ตูละเซ็ง

หมอก็คนเหมือนกันนี่(วะ) ผมเริ่มมีอารมณ์(อย่าคิดลึกนะครับ) ปุด ๆ เหมือนกาต้มน้ำที่เดือดเต็มที่แล้วมีฝามาอั้นไว้ ผมเลยโพล่งออกไปว่า

ผม - "ถ้าไม่เอกซเรย์ปอด ก็ไม่ต้องเอายา ลุงกลับไปเลย ผมไม่รักษาแล้ว"
ลุง - "ไม่เอา ๆ ผมกัวเป็นมะเร็ง ไม่เอกซเรย์ปอด"

ตอนนั้นผมไม่สนใจอะไร ๆ ทั้งสิ้นแล้ว ลุงนี่..พูดไม่รู้เรื่อง ก็เลยเขียนใบสั่งเอกซเรย์ไป แล้วก็โยนภาระหน้าที่ไปให้พยาบาลพูดกล่อมเด็ก..เอ้ย! กล่อมลุงอีกที

ลุงนี่ก็แปลก...ถ้ากลัวเป็นมะเร็งก็ต้องยิ่งต้องเอกซเรย์สิ จะได้รู้ดำรู้แดง ออกหัวออกก้อยกันไปเลย ไม่เป็นก็จะได้สบายใจไปเลย

ผมก็นั่งตรวจ คนไข้คนอื่นต่อไปเรื่อย ๆ จนเวลาผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง ผมก็นึกขึ้นได้ว่า เอ..ทำไมลุงไปเอกซเรย์นานจัง จะช็อคตายคาที่ ที่ห้องเอกซเรย์หรือเปล่า

ก็เลยเดินไปถามกับพยาบาล ปรากฎว่า คุณลุงเป็นเด็กดื้อจริง ๆ หายจ้อยเลย สงสัยกัวเป็นมะเร็งจนขี้ขึ้นสมองแล้วมั้ง

ก็มะเข้าจายลุงจิง ๆ แกกัวใจตัวเองมากกว่า กัวโรคมะเร็งซ้างั้น....

1 comment:

Anonymous said...

คุณหมอครับ ลุงเขายังรับไม่ได้ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นมะเร็งน่ะ แกกลัวเป็นมะเร็ง ไม่อยาก x-ray เพราะกลัวว่าผลจะออกมาว่าเป็นไง
กรณีหยั่งงี้ คุณหมอต้อง communicate กับญาติก่อนนะครับ
ของคุณลุงยังอยู่ในระยะ denial อยู่ ก็เข้าใจเขาไป เอายาแก้ไอให้ก่อนก็ได้เป็น symptomatic เพื่อรักษา relationship และวันหลังๆ ค่อยๆ ตะล่อมให้แกทำน่ะ
จาก
หมอแก่ที่ดูคนไข้มาเยอะ